ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง
   เป็นพุทธปฎิมากรรมสลักบนแผ่นหินแบบนูนต่ำ (Relief) ในพุทธศาสนาลัทธิมหายาน ซึ่งเป็นศาสนาที่ชาวจีน ญี่ปุ่น เกาหลี ทิเบต ญวน เขมร นับถือ เป็นศิลปะแบบขอมเป็นรูปพระวิษณุกรรมสวมหมวกแขก ในศิลปะไพรกเม็ง อายุประมาณ 1300-1400 ปีมาแล้ว มีพระนามว่าพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร หรือ พระนารายณ์สี่กร มีหน้าที่ช่วยเหลือมนุษย์ และเหล่าสรรพสัตว์ให้พ้นทุกข์ ประสพแต่ความสุขความเจริญ เช่นเดียวกับพระโพธิสัตว์ เจ้าแม่กวนอิม ตามคำบอกเล่าต่อๆกันมา เมื่อประมาณ 150 ปีมาแล้ว มีผู้พบพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร จมดินอยู่ตรงริมศาลเจ้าพ่อ ชาวบ้านจึงช่วยกันอัญเชิญขึ้นข้างบน พร้อมกับสร้างศาลใหม่ให้เป็นที่ประทับ มีคนจีนชื่อ เฮียกงเป็นผู้ดูแลรักษาเรื่อยมา
     เมื่อครั้งโบราณมีคำกล่าวว่า " ห้ามเจ้าไปเมืองสุพรรณจะทำให้มีอันเป็นไป "
เมื่อ พ.ศ. 2435 สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ เสด็จตรวจราชการเมืองสุพรรณ ได้ทรงสักการะเจ้าพ่อหลักเมือง ได้ประทานทรัพย์ส่วนพระองค์สร้างศาลเพิ่มขึ้น พร้อมวางแผนให้พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จประพาสเมืองสุพรรณ พระพุทธเจ้าหลวงทรงพระดำรัสว่า "เข้าทีดีหนักหนา แต่เขาไม่ให้เจ้าไปเมืองสุพรรณ ว่าถ้าขืนไปจะเป็นบ้าไม่ใช่หรือ" สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพจึงกราบบังคมทูลว่า ข้าพระพุทธเจ้าไปมาแล้วไม่เห็นเป็นอะไร ยังรับราชการมาจนบัดนี้ พระพุทธเจ้าหลวงทรงตรัสสั้นๆว่า "ไปซิ" จากนั้นพระองค์จึงเสด็จมาเมืองสุพรรณ ในคราวเสด็จประพาสต้นเมื่อ พ.ศ. 2447 และทรงกระทำพลีกรรมเจ้าพ่อหลักเมือง และพระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์ก่อสร้างเขื่อนรอบเนินศาล ทำชานไว้สำหรับคนที่บูชา สร้างกำแพงแก้ว ต่อตัวศาลเพิ่มเติมออกมา ข้างหน้าเป็นแบบเก๋งจีน  โดยทั่วไปศาลหลักเมืองนั้นจะทำด้วยไม้ บนยอดจะเป็นหัวเม็ด แต่หลักเมืองของ สุพรรณนี้พิเศษกว่าหลักเมืองทั่วไปคือ จะเป็นหินและมีพุทธปฎิมากรอยู่ด้วย

พิพิธภัณฑ์ลูกหลานพันธุ์มังกร

ก่อตั้งขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาสที่ประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีน
มีความสัมพันธ์ทางการทูตครบ 20 ปี เมื่อปี พ.ศ. 2539

   ภายในจัดแสดงประวัติศาสตร์ของจีน แบ่งเป็นห้อง 18 ห้อง
รูปแบบแปลกตาด้วยภาพ แสงสีเสียง และเทคนิกพิเศษ น่าชมเป็นอย่างยิ่ง
จีน...เป็นประเทศที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน
และเป็นชนชาติที่มีอารยะธรรมยาวนานกว่า 5000 ปี
ตั้งแต่สมัยเสินหนง....เป็นหัวหน้าเผ่าแซ่เจียง เมื่อ 5,000 ปี ก่อน
เป็นผู้คิดประดิษฐ์คันไถด้วยไม้ - ค้นคิดยาสมุนไพรชนิดต่างๆ
และสอนให้ผู้คนรู้จักการปลูกข้าว ทำไร่ไถนา
เข้ามาในยุคโบราณ..สืบกษัตริย์สายพันธุ์มังกร.......ยุค ราชวงค์เซี่ย...ราชวงค์ซาง...
ราชวงโจว..จนถึงยุค..เลียดก๊ก ซึ่งมี 7 ก๊กใหญ่ที่ครองอำนาจ
จิ๋นซีฮ่องเต้ เป็นจักรพรรดิองค์แรก
ยุค...ราชวงศืฮั่น.....เป็นยุคที่เจริญรุ่งเรือง และยาวนานที่สุดของชนชาติจีน
ยุค..สามก๊ก.......ยุคราชวงศ์..ถัง .....ราชวงศ์หยวน
ซึ่งถูกปกครองโดย จักรพรรดิ กุบไลข่าน ซึ่งเป็นชาวแมนจู
และเวลาผ่านไป จักรพรรดิองค์ต่อๆมาก็กดขี่ขมเหงชาวจีนอย่างมาก
จนเกิดกบฎ จูหยวนจาง(จักรพรรดิหงหวู่) ได้รวบรวม และก่อตั้งราชวงศ์..หมิง
ในสมัยราชวงศ์ชิง เป็นราชวงศ์ของเผ่าแมนจู
ปูยี....จักรพรรดิองค์สุดท้ายก่อนสถาปนาเป็นระบบสาธารณรัฐ
ดร. ซุนยัดเซ็น ยึดอำนาจจากจักรพรรดิ และสถาปนาระบอบประชาธิปไตย
หลังจากซุนยัดเซ็นเสียชีวิต เป็นช่วงเวลาชิงอำนาจระหว่างฝ่ายประชาธิปไตย
คือ เจียงไคเช็ค กับฝ่ายคอมมิวนิสต์ นำโดย เหมาเจ๋อตุง สุดท้ายเหมาเจ๋อตุงเป็นฝ่ายชนะ
เจียงไคเช็คหนีไปยังเกาะไต้หวัน และสถาปนาสาธารณรัฐจีนขึ้นแทน
กาลเวลาเดินผ่านมาจนถึงวันนี้...
นอกจากความงดงามที่ได้ชมมาแล้ว ยังมีส่วนอื่นๆ
อย่าง ห้องฉายภาพยนตร์ ห้องรับฝากของ จำหน่ายหนังสือ
ห้องจำหน่ายของที่ระลึก และห้องเครื่องเล่นสำหรับเด็ก
ส่วนบริเวณรอบนอกก็จัดตกแต่งสวยงาม มีรูปปั้น ระฆังยักษ์
และน้ำตกขนาดใหญ่สวยงาม คุ้มค่ากับการแวะเที่ยวชม....

แหล่งที่มา www.suphan.biz